ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ต่างก็หลีกหนีโรคภัยไข้เจ็บไม่ได้ เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องหาวิธีในการรักษาเพื่อให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติ ซึ่งในแต่ละโรคก็มีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป เพียงแต่หวังเป็นอย่างเดียวว่าให้ผู้ป่วยหายจากโรคนั้นให้ไว้ที่สุด อย่างเช่นบทความที่เรานำมาให้ทุกท่านได้อ่านกันวันนี้
เรื่องมันมีอยู่ว่าเจ้าน้องเหมียวที่ชื่อว่า ” คาพ้วง ” เป็นแมวสีขาวที่ถูกเลี้ยงดูโดยคุณสุภามาส (ดิว) และคุณหม่อน น้องคาพ้วงได้เป็นแผลที่ข้อเท้าหน้าและกกหู แต่น้องไม่สามารถหายได้ง่าย ๆ เพราะมีอาการติดเชื้อแทรกซ้อนด้วย
น้องเหมียวตัวนี้ชื่อว่า ” คาพ้วง “
ตลอดเวลาที่น้องคาพ้วง เป็นแผลและติดเชื้อรานั้นทางคุณดิวและคุณหม่อนก็เอาน้องไปรักษาเสมอ ๆ แต่ว่าเวลาที่ทายาให้น้องแล้วเจ้าคาพ้วงชอบที่จะเลียแผลและยาที่ทาเอาไว้มันก็หายไปด้วย ต่อให้เอาปลอกคอกันเลียมาสวมใส่ให้ เจ้าคาพ้วงเองก็จะต้องพยายามหาวิธีเลียจนได้
ทายาไปเท่าไหร่น้องก็เลียหมด
คุณดิวและคุณหม่อน ได้รับคำแนะนำจากคุณแม่ถึงวิธีการรักษาแบบสมัยโบราณโดยการใช้ขมิ้นที่มีสรรพคุณในการรักษาอาการที่น้องคาพ้วงเป็นอยู่ได้ดี และอีกอย่างมันเป็นสมุนไพรซึ่งจะไม่เป็นอันตรายกับน้อง คุณแม่ก็เลยลงมือที่จะเอาขมิ้นที่บดและผสมส่วนต่าง ๆ เรียบร้อยแล้วมาทาให้น้องในจุดที่เป็นแผล แต่เนื่องจากขมิ้นที่ผสมมานั้นมันมีเยอะคุณแม่ก็เลยทาให้น้องไปทั้งตัวเลยเพื่อหวังว่ามันจะเป็นการช่วยป้องกันเชื้อราที่อาจเกิดขึ้นในจุดอื่นด้วย
ไหน ๆ ก็จะรักษาแล้ว สมุนไพรก็ยังเหลือทาไปทั้งตัวเลยเพื่อเป็นการป้องกัน
เดี๋ยวก็หายแล้วนะลูก ” คาพ้วง “
หลังจากที่ทาด้วยขมิ้นเอาไว้สักพักหนึ่งคุณแม่ก็เอาน้องไปล้างตัว และผลที่ได้ก็คือว่า น้องคาพ้วงเปลี่ยนจากสีขาวกลายเป็นสีเหลืองไปทั้งตัวเลย
เราจะเทียบให้เห็นก่อนและหลัง
จากนั้นทางคุณดิวก็ได้เอาภาพของน้องคาพ้วงหลังจากที่เปลี่ยนสีแล้วโพสต์ในเฟซบุ๊กของเธอ มันกลับกลายเป็นไววัลในโลกโชเชียลไปเลย บางคนก็บอกว่าน้องดูเหมือนกับปิกาจูจากการ์ตูนเรื่อง โปเกมอน
คล้ายปิจาจูหรือเปล่าจ๊ะ
นอกจากที่กลายเป็นไวรัลในเมืองไทย สื่อใหญ่ในต่างประเทศก็เอาเรื่องนี้ไปแชร์ด้วยเหมือนกัน ทำเอาชาวโซเชียลต่างแดนหลายคนถึงกับงงว่าเอาขมิ้นมาทาตัวเนี่ยนะ? แต่ก็ได้มีคนไทยได้เข้าไปอธิบายถึงสรรพคุณของขมิ้นในการรักษาอาการดังกล่าวแล้ว
สำหรับหลายคนที่อ่านบทความมาถึงจุดนี้แล้วอยากรู้ความคืบหน้าของการรักษา ” คาพ้วง ” ต้องบอกเลยว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะน้องอาการเริ่มดีขึ้นมากแล้ว เหลือแต่อย่างเดียวนั้นก็คือเรื่องของสีขาวของน้องจะกลับมาเร็วที่สุดเมื่อใด แต่ถ้าการรักษาด้วยวิธีนี้มันหายจริง เรื่องสีของน้องเองก็อาจจะเป็นเรื่องรองลงมาก็ได้นะ
ยังไม่จบน๊าาาา
คุณดิวเลยถ่ายภาพพร้อมกับใส่ฟิลเตอร์เข้าไปด้วย
แต่ไม่ต้องห่วงนะเดี๋ยวน้องก็กลับมาเหมือนเดิม
สำหรับใครที่อยากติดตามอาการของน้องคาพ้วงก็สามารถเข้าไปกดถูกใจที่หน้าเพจ ตุ้มเม้งแมวแพนด้า&คาพ้วงแมวเชื้อรา กันได้เลย เพราะนอกจากจะได้เจอเจ้าคาพ้วงแล้ว ทางคุณดิวเองก็ยังมีแมวที่เลี้ยงเอาอีกตัวที่ชื่อว่า ” ตุ้มเม้ง ” เป็นแมวที่ลักษณะคล้ายกับแพนด้าเลย รับรองน่ารักไม่แพ้กันเลยทีเดียว
ขอบคุณที่มา facebook | เรียบเรียงโดย เบาสมอง