นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าโลกได้ถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 4,600 ล้านปีมาแล้ว หากเป็นตามข้อสันนิษฐานนี้จริง นั่นก็เท่ากับว่าโลกใบนี้มีประวัติศาสตร์ที่ถูกซ่อนเอาไว้มากมาย และการค้นพบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ถือได้ว่าเป็นเพียงแค่ส่วนเล็ก ๆ จากประวัติศาตร์ที่มีบนโลกใบนี้
แต่นั่นก็เพียงพอต่อการสร้างความประหลาดใจให้กับมนุษย์อย่างเรามากพอแล้ว นักประวัติศาสตร์ไม่เคยที่หยุดค้นหาความจริงของอดีตที่เคยเกิดขึ้น อย่างเช่นการค้นพบข้อมูลเหล่านี้ด้วยเหมือนกัน
1. Moa Birds
นกโมอาเป็นนกที่บินไม่ได้ซึ่งเคยอาศัยอยู่ในประเทศนิวซีแลนด์และได้สูญพันธุ์ไปเมื่อราวปี 1,500 พวกมันถูกล่าโดยชนเผาเมารีโบราณเพื่อเอาไปทำเป็นอาหาร ในศตวรรษที่ 20 นักวิทยาศาสตร์ได้พบกรงเล็บขนาดใหญ่จากนกตัวหนึ่งซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีมาหลายศตวรรษ และมีความเชื่อว่ามันน่าจะเป็นกงเล็บของนกโมอา (แต่ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้)
2. The Temple Complex of Saksaywaman ในเปรู
หินที่สมบูรณ์แบบของป้อมปราการ ที่ถูกสร้างขึ้นในพื้นที่เมืองกุสโก ประเทศเปรู มันเป็นการสร้างที่สมบูรณ์โดยไม่มีการใช้ปูนสำเร็จรูปแม้จะหยดเดียว ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากลักษณะของป้อมปราการนั้นถูกจัดวางด้วยหินที่พอดีกัน จนไม่สามารถมีอะไรแทรกเข้าไประหว่างหินแต่ละก้อนได้เลย ทุกวันนี้นักวิทยาศาตร์ยังพยายามค้นหาเทคนิคว่าทำได้อย่างไร
3. Gate of the Sun โบลิเวีย
นักโบราณคดีบางคนเชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรขนาดใหญ่ในช่วงสหัสวรรษแรก ไม่มีใครรู้ว่างานแกะสลักบนประตูมีความหมายว่าอะไร อาจเป็นไปได้ว่าพวกมันมีความสำคัญทางโหราศาสตร์หรือดาราศาสตร์
4. ถ้ำหลงเยว่ประเทศจีน
ถ้ำหินทรายนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์ภายในมีถึง 36 ห้อง มีสะพานและสระน้ำ ซึ่งการทำงานที่ยากลำบากเช่นนี้จะต้องใช้คนเป็นจำนวนมาก ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีการบันทึกประวัติศาสตร์ใดที่ได้กล่าวถึงสาเหตุในการสร้างถ้ำแห่งนี้หรือวิธีการที่ใช้ในการสร้างถ้ำแห่งนี้เลย
5. อนุสาวรีย์โอเบลิสก์ ที่ยังสร้างไม่เสร็จ ประเทศอียิปต์
อนุสาวรีย์โอเบลิสก์เป็นอนุสาวรีย์เรียวสูงสี่ด้านแคบ ๆ ปลายด้านบนสุดจะเป็นรูปทรงปิรามิดหรือพีระมิด ที่ด้านบน เดิมที่พวกเขาถูกเรียกว่า tekhenu โดยผู้สร้างคือชาวอียิปต์โบราณ แต่สำหรับอนุสาวรีย์โอเบลิสก์ต้นนี้มันถูกทิ้งเอาไว้เพราะยังสร้างไม่สำเร็จ ทำให้นักโบราณต้องตั้งคำถามต่อไปว่า มีเหตุอะไรที่ทำให้อนุสาวรีย์โอเบลิสก์ถึงสร้างไม่สำเร็จ
6. เมืองใต้น้ำของโยนากูนิ ประเทศญี่ปุ่น
เมืองโบราณที่อยู่ใต้น้ำแห่งนี้ถูกค้นพบโดยอาจารย์สอนดำน้ำชื่อว่า Kihachiro Aratake มันสร้างความสับสนให้กับทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมด หินที่ถูกแกะสลักนั้นจมอยู่ใต้น้ำประมาณ 10,000 ปีก่อน ซึ่งนานกว่าที่จะมีการสร้างปิรามิดในอียิปต์ซะอีก จากข้อมูลหลาย ๆ ที่ก็ยังไม่ให้ข้อมูลไม่ตรงกันบ้างก็ว่าถูกสร้างขึ้นมาจากฝีมือมนุษย์ และอีกส่วนหนึ่งก็บอกว่ามันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
7. Mohenjo-daro ในปากีสถาน
ความลับของการล่มสลายของเมืองนี้มีผู้เชี่ยวชาญงงงวยมานานหลายทศวรรษ ในปี 1922 นักโบราณคดีชาวอินเดีย RD Banerji ค้นพบซากปรักหักพังโบราณบนเกาะแห่งหนึ่งในแม่น้ำสินธุ คำถามเกิดขึ้น : เมืองใหญ่นี้ถูกทำลายได้อย่างไร? เกิดอะไรขึ้นกับชาวเมือง? ซึ่งมาถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ข้อมูลที่เขาตั้งคำถามเอาไว้
8. L’Anse aux Meadows ประเทศแคนาดา
มีการบอกเล่าว่าโบราณสถานแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของพวกไวกิ้งเมื่อประมาณหนึ่งพันปีก่อน ซึ่งถ้าข้อมูลนี้เป็นจริงก็แสดงว่านักเดินเรือชาวสแกนดิเนเวียมาถึงอเมริกาเหนือ ก่อนคริสโตเฟอร์โคลัมบัส
9. stone Age tunnels(ถ้ำมนุษย์ยุคหิน)
การค้นพบอุโมงค์ใต้ดินที่เจาะทะลุถึงกันครอบคลุมทั่วทั้งยุโรปจากสก็อตแลนด์ถึงตุรกี แสดงให้เห็นว่าผู้คนในยุคหินไม่ใช่เพียงแค่ล่าสัตว์เก่งเท่านั้นแต่พวกเขายังเป็นนักสิ่งประดิษฐ์ที่ยอดเยี่ยม วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของอุโมงค์ยังคงเป็นปริศนา นักวิจัยบางคนเชื่อว่าที่นี่ถูกสร้างเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ในขณะที่คนอื่นเชื่อว่าที่นี่อาจจะเป็นเส้นทางหลักที่เอาไว้ติดต่อกัน เพื่อให้ปลอดภัยจากสภาพอากาศที่รุนแรงและอันตรายต่าง ๆ
10. หินทรงกลมยักษ์ ในคอสตาริกา
การก่อตัวของหินลึกลับเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นที่น่าสนใจในรูปร่างทรงกลมที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงต้นกำเนิดและวัตถุประสงค์ในการสร้างที่ไม่มีการบันทึกใด ๆ ระบุเอาไว้ หินพวกนี้ถูกค้นพบในช่วงทศวรรษที่ 1930 ใน ขณะที่คนงานกำลังเคลียร์สวนกล้วย ตำนานท้องถิ่นบอกว่าทรงกลมลึกลับมีทองคำซ่อนอยู่ พอผ่าออกมาดูก็ไม่พบอะไรเลย
อย่างที่ได้บอกไปเบื้องต้นว่าโลกใบนี้กว้างใหญ่มาก และยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ถูกซ่อนอยู่เพื่อรอวันให้ถูกค้นพบ และสร้างความท้าทายในการไขปริศนากับสิ่งเหล่านั้น
ขอบคุณที่มา brightside | เรียบเรียงโดย เบาสมอง